รัฐตรึงราคา ดันยอดใช้เบนซินพุ่งกระฉูด ไทยนำเข้าน้ำมัน 8.52 หมื่นล้านบาท

Written By Unknown on วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555 | 01:34

กรมธุรกิจพลังงาน เผยเดือนกรกฎาคม ใช้น้ำมันลดลงเหตุหน้าฝน เดินทางท่องเที่ยวน้อย ราคาแพงทำให้ไทยต้องจ่ายเงินนำเข้าน้ำมันกว่า 8.52 หมื่นล้านบาท ชี้เดือนสิงหาคม มีแนวโน้มสูงขึ้นโดยเฉพาะเบนซินเพราะรัฐบาลเข้าแทรกแซงราคา ช่วยลดภาระประชาชน ทำให้ยอดใช้มากขึ้น นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยถึงภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเดือนกรกฎาคม 2555ว่าปรับลดลงจากเดือนมิถุนายน เกือบทุกชนิด เนื่องจากเดือนกรกฎาคม เป็นช่วงฤดูฝนทำให้มีการเดินทางท่องเที่ยวลดลง และเป็นช่วงที่หมดฤดูการเกษตร รวมถึงราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ความต้องการใช้พลังงานลดลง โดยกลุ่มเบนซินมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 20.19 ล้านลิตร/วัน ลดลง 4.5% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แบ่งเป็น เบนซิน 91 และเบนซิน 95 การใช้อยู่ที่ 8.66 ล้านลิตร/วัน ลดลง 6.5% ส่วนกลุ่มแก๊สโซฮอล์ มีการใช้อยู่ที่ 11.54 ล้านลิตร/วัน ลดลง 3% ส่วนดีเซลมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 53.58 ล้านลิตร/วัน ลดลง 5.5% ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ หรือ เอ็นจีวี มีการใช้อยู่ที่ 7.55 ล้านกิโลกรัม/วัน ลดลง 3.1% สำหรับปริมาณการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือ แอลพีจี มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 623,152 ตัน เพิ่มขึ้น 5.3% แบ่งเป็น แอลพีจี ภาคครัวเรือนมีการใช้อยู่ที่ 255,928 ตัน เพิ่มขึ้น 2.2%แอลพีจีภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ 53,758 ตันเพิ่มขึ้น 5.9% แอลพีจีภาคขนส่ง อยู่ที่ 88,822 ตัน เพิ่มขึ้น 3.4% แออลพีจีปิโตรเคมี อยู่ที่ 224,644 ตัน เพิ่มขึ้น 9.8% ขณะที่ปริมาณการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงในเดือนกรกฎาคมโดยรวมอยู่ที่ 865,000 บาร์เรลต่อวัน ลดลง 7.1% คิดเป็นมูลค่า 85,201ล้านบาท แบ่งเป็น การนำเข้าน้ำมันดิบ 809,000 บาร์เรล/วัน ลดลง 6.7% น้ำมันสำเร็จรูป 55,000 บาร์เรล ลดลง 12.6% ขณะที่การนำเข้าแอลพีจีอยู่ที่ 106,467 ตัน คิดเป็นมูลค่า 2,227 ล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลต้องจ่ายเงิยชดเชยประมาณ 1,100 ล้านบาท ส่วนการส่งออกอยู่ที่ 163,000 บาร์เรล/วัน ลดลง 29.3% คิดเป็นมูลค่า 17,567 ล้านบาท นายวีระพลกล่าวถึงแนวโน้มการใช้น้ำมันในเดือนสิงหาคม ว่า คาดว่าจะปรับเพิ่มสูงขึ้นจากในเดือนกรกฎาคมโดยคาดว่าการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินจะปรับขึ้นไปอยู่ที่ 21.2 ล้านลิตร/วัน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนโยบายของรัฐบาลในการดูแลราคาพลังงานเพื่อลดภาระของประชาชนในช่วงน้ำมันแพง ขณะที่ดีเซลจะลดลงมาอยู่ที่ 50.2 ล้านลิตรต่อวัน ส่วนการใช้แอลพีจีคาดว่าจะใกล้เคียงกับเดือนกรกฎาคม ที่ 626,000 ตัน/เดือน เนื่องจากยังอยู่ในช่วงฤดูมรสุม สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบนั้นทางสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในครึ่งปีหลัง ว่า น้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 103 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอยู่ที่ 90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2555 ขยับขึ้นจากความหวังครั้งใหม่ว่ายุโรปจะลงมือสกัดวิกฤติหนี้ โดยสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลท์สวีตครูดของสหรัฐ งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ ปิดที่ 96.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 94 เซนต์ ปิดที่ 114.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นายวีระพลกล่าวถึงเรื่องการเก็บสำรองน้ำมันของภาคเอกชนที่กระทรวงพลังงานมีนโยบายให้เก็บเพิ่มจาก 5% เป็น 6% หรือจาก 36 วัน เป็น 45 วัน ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา เนื่องจากมีมติของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ให้ชะลอการประกาศบังคับใช้ออกไป เนื่องจากมีภาคเอกชนหลายรายมีปัญหาไม่มีถังเก็บน้ำมันเพียงพอ ขณะเดียวกันโรงกลั่นบางจาก ยังปิดซ่อมหน่วยกลั่นน้ำมันดิบ หน่วยที่ 3 และมีกำหนดเปิดภายในวันที่ 7 ตุลาคมปีนี้ และหลังจากเปิดเดินเครื่องหน่วยกลั่นก็ต้องมีการทดลองเดินเครื่องจึงคาดว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน จึงจะเดินเครื่องผลิตได้เต็มที่ โดยให้ภาคเอกชนแต่ละรายขอผ่อนผันเข้ามา ทั้งนี้ผู้ประกอบการได้ขอเวลาในการก่อสร้างถังเก็บน้ำมันเป็นเวลา 2-3 ปี ก่อนที่จะทำการเพิ่มการสำรองน้ำมันเป็น 6% ดังนั้น ระหว่างนี้จึงเป็นการรวบรวมปัญหาของผู้ประกอบการ ทั้งหมดก่อนที่จะมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่งว่าจะดำเนินการอย่างไร

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 
berita unik