Welcome Guys

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

นักวิชาการจี้รัฐเลิกตรึงราคาพลังงาน

Written By Unknown on วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 | 01:50

นายพรายพล คุ้มทรัพย์ นักวิชาการเศรษฐศาสตร์ด้านพลังงานและอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมพิจารณาต่ออายุมาตรการช่วยเหลือประชาชนว่า รัฐบาลควรยกเลิกการใช้นโยบายดังกล่าว โดยเฉพาะการตรึงราคาน้ำประปา ไฟฟ้า และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ซึ่งทำให้รัฐบาลเสียงบประมาณหลายหมื่นล้านบาทในการดูแลประชาชน และควรนำงบประมาณในส่วนนี้ไปใช้ในการพัฒนาประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนพัฒนาระบบการศึกษาและสาธารณูปโภคพื้นฐาน เนื่องจากขณะนี้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นแล้ว เห็นได้จากตัวเลขการว่างงานที่ลดลง ประชาชนมีรายได้มากขึ้น สำหรับการแยกราคาปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) เป็นสองราคา โดยการปล่อยลอยตัวราคาในภาคอุตสาหกรรม และตรึงราคาในภาคขนส่งและครัวเรือน รัฐบาลควรตรึงราคาแอลพีจีเฉพาะภาคครัวเรือนเท่านั้น ซึ่งแนวทางที่ถูกต้อง คือ ใช้วิธีการแจกคูปองให้กับประชาชนที่มีรายได้น้อย โดยอิงจากฐานผู้ใช้ไฟฟ้าที่ต่ำกว่า 90 หน่วยต่อเดือน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10 ล้านครัวเรือน ซึ่งจะช่วยลดภาระให้กับรัฐบาล หลังจากการทำงบประมาณขาดดุลต่อเนื่องถึง 6 ปี ที่มา : มติชนออนไลน์
01:50 | 1 ความคิดเห็น | Read More

ปั้ม LPG ผุดเป็นดอกเห็ด พฤษภาคม 1063 แห่ง

ปัจจุบันมีประชาชนผู้ใช้รถยนต์หันมาใช้ก๊าซ LPG เป็นเชื้อเพลิงเพิ่มมากขึ้นประมาณ 832,882 คัน มากที่สุดยังเป็นรถเก๋งจำนวน 765,561 คัน รองลงมาเป็นรถแท็กซี่ จำนวน 39,992 คัน ตามติดด้วยรถสามล้อ รถโดยสาร รถบรรทุก และประเภทอื่นๆ ทำให้ต้องนำเข้าก๊าซ LPG จากต่างประเทศประมาณ 110,000 ตันต่อเดือน ทำให้ต้องนำเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนส่วนต่างราคานำเข้าช่วงเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ประมาณ 1,130 ล้านบาทต่อเดือน สาเหตุที่ต้องนำเข้าก๊าซ LPG ก็เพราะการผลิตก๊าซ LPG จากโรงกลั่นน้ำมันประมาณ 146,000 ตันต่อเดือน และจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติประมาณ 309,000 ตันต่อเดือนยังไม่เพียงพอกับความต้องการนั่นเอง จากประมาณรถยนต์ที่ใช้ก๊าซ LPG มากขึ้นได้กลายเป็นปัจจัยทำให้มีการเปิดให้บริการปั๊มก๊าซ LPG ช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม 2555 เติบโตอยู่ที่ประมาณ 1,063 แห่ง โดยเดือนพฤษภาคมเดือนเดียวออกใบอนุญาตก่อสร้างรวดเดียว 10 แห่ง และมีการยื่นขออนุญาตอยู่ระหว่างการพิจารณาอีกกว่า 10 แห่ง ทั้งนี้ แม้รัฐบาลจะมีนโยบายปรับราคาก๊าซ LPG ภาคขนส่งขึ้นไป 9 บาทต่อกิโลกรัม หรือประมาณ 4.92 บาทต่อลิตรเมื่อถึงสิ้นปี 2555 โดยได้ทยอยปรับขึ้นเดือนละ 75 สตางค์ต่อกิโลกรัม หรือ 41 สตางค์ต่อลิตรมาตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2555 แต่ครม.ได้ชะลอการขึ้นราคา 3 เดือนตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อลดค่าครองชีพประชาชน ซึ่งจะต้องไปลุ้นอีกครั้งวันที่ 16 สิงหาคม นี้จะมีการกลับไปเก็บตามเดิมหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ปริมาณการใช้ก๊าซ LPG ก็ยังเติบโตสูง เพราะมีราคาถูกกว่าราคาน้ำมัน ส่วนการส่งเสริมให้มีการใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV กลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร โดยโครงการติดตั้งถังและอุปกรณ์ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ฟรีสำหรับรถแท็กซี่ของกระทรวงพลังงานเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2555 มีผู้ประกอบการแท็กซี่ขอรับการติดตั้งไม่ถึงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 15,000 คัน โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการเพียง 4,800 คัน จากความต้องการก๊าซ LPG จากตลาดจำนวนมากนี้เอง ทำให้ผู้ค้าน้ำมัน “เอสโซ่” สนใจเตรียมเข้าไปมีส่วนแบ่งตลาดกลุ่มก๊าซหุงต้ม โดยนายยอดพงศ์ สุตธรรม กรรมการและผู้จัดการการตลาด ขายปลีก การตลาดน้ำมันเชื้อเพลิง บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้เอสโซ่กำลังศึกษาที่จะเข้ามาลงทุนปั๊ม LPG เพื่อรถยนต์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปลายปี 2555 ส่วนปั๊มน้ำมันจะมีการนำเทสโก้ โลตัสเอ็กซ์เพรส เข้าไปตั้งในปั๊มสถานีบริการน้ำมันของผู้ร่วมลงทุนด้วย เช่นเดียวกับทาง SGP หรือ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลล์ จำกัด (มหาชน) นางจินตนา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า SGP กำลังดำเนินการขยายปั๊มก๊าซ LPG เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและยานยนต์ที่จะหันมาใช้ก๊าซ LPG มากขึ้น เพราะว่าต้นทุนก๊าซ LPG ยังมีราคาถูกกว่าพลังงานชนิดอื่น มั่นใจว่า ยอดขายในประเทศปีนี้จะเพิ่มขึ้นมีปริมาณ กว่า 1.3 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 8-9% “ภาครัฐมีนโยบายลอยตัวราคาก๊าซในประเทศที่มีผลต่อราคาปรับตัวสูงขึ้นบ้างในอนาคต แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้ LPG ในกลุ่มยานยนต์และกลุ่มอุตสาหกรรมและครัวเรือน เนื่องจากต้นทุนยังมีราคา ถูกและคุ้มค่ากว่าพลังงานชนิดอื่นและมีความสะดวกในการใช้งานมากกว่า ส่งผลให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม และภาคยานยนต์หันมาใช้แอลพีจีเพิ่มขึ้น” ก่อนหน้านี้นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การลงทุนธุรกิจน้ำมันยังเป็นธุรกิจหลัก ตอนนี้มีปั๊มอยู่จำนวน 145 แห่ง ในปี 2555 ไม่ได้เร่งลงทุนมากคาดว่าจะเพิ่มเพียง 5-10 แห่ง และปั๊มก๊าซธรรมชาติ NGV อีกจำนวน 9 สถานี สนใจลงทุนเพิ่มไปแล้ว 6-7 แห่ง รวมถึงปั๊มก๊าซ LPG จำนวน 7 แห่ง ซึ่งได้ขยายการลงทุนไปเปิดเพิ่มที่นาพุ จังหวัดนครศรีธรรมราช ต้องจับตาตลาดการแข่งขันก๊าซ LPG ในช่วงครึ่งปีหลังจะร้อนแรงหรือแผ่วปลาย เนื่องจากข้อจำกัดพื้นที่ในกรุงเทพฯและปริมณฑลหาได้ค่อนข้างยาก กรมผังเมืองยังเข้มงวดกับการให้อนุญาตปั๊มก๊าซ LPG ในเขตชุมชน และต้องห่างไกลพื้นที่สาธารณะ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียนไม่น้อยกว่า 200 เมตร โดยเฉพาะประเด็นแหลมๆ ที่รัฐบาลจะสตาร์ตขยับราคาก๊าซ LPG รอบสองในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ เพื่อลดการอุดหนุนสร้างความเท่าเทียมรองรับ การเปิดเสรี AEC
01:45 | 0 ความคิดเห็น | Read More

กบง.ปรับลดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ส่งผลราคาขายปลีกดีเซล-แก๊สโซฮอล์คงเดิม

Written By Unknown on วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 | 21:49

คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) มีมติให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนนํ้ามันเชื้อเพลิงของนํ้ามันดีเซล ลง 0.40 บาท/ลิตร เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกไม่ให้กระทบภาคขนส่ง ค่าโดยสาร และภาวะเงินเฟ้อ ส่วนนํ้ามันแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนนํ้ามันฯ ลง 0.30 บาท/ลิตร เพื่อเป็นการสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทน
เสื่อมสมรรถภาพ
21:49 | 2 ความคิดเห็น | Read More

ธพ.ยันขยายท่อส่งนํ้ามันไปเหนือ-อีสานช่วยประหยัดค่าขนส่ง

ธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยถึงโครงการขยายระบบท่อส่งนํ้ามันไปพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เม็ดเงินลงทุนกว่า 15,000 ล้านบาท โดยแนวท่อดังกล่าวไปภาคเหนือจะขยายจากคลังนํ้ามันสระบุรี ไปพิษณุโลกและลำปาง ระยะทาง 338 กิโลเมตร ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือเริ่มจากคลังนํ้ามัน จ.สระบุรี ไปนครราชสีมาและขอนแก่น ระยะทาง 345 กิโลเมตร โดย 4 จังหวัดจะต้องสร้างคลังนํ้ามันใหม่ ส่งนํ้ามันจะช่วยประหยัดพลังงานจากการขนส่งทางรถได้ 42,000 ล้านบาท ในอีก 25 ปี
นักสืบ
21:44 | 8 ความคิดเห็น | Read More
“คำนูณ” แนะทำประชามติเปิดสัมปทานปิโตรเลียม หลังเลื่อนเปิดประมูลไม่มีกำหนด

นายคำนูณ กล่าวว่า เป็นเรื่องถูกต้องแล้วที่ นายทรงภพ พลจันทร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ที่ชะลอการเปิดสัมปทานปิโตรเลี่ยมรอบที่ 21 ไว้ก่อน แต่จากนี้ไปรัฐจะต้องเปิดพื้นที่สื่อให้แก่ภาคประชาชนที่เห็นต่างกับรัฐได้ สื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนด้วย จนเสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้กลไกออกเสียงประชามติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 165 มาตัดสินในท้ายที่สุดเลยดีกว่า ว่า จะใช้ระบบแบ่งผลประโยชน์ระหว่างรัฐกับผู้รับสัมปทานตาม พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ.2514 หรือที่เรียกว่าระบบ “THAILAND 3” ที่ใช้บังคับมาตั้งแต่ปี 2532 หรือจะยกเครื่องปฏิรูปใหม่

21:38 | 1 ความคิดเห็น | Read More
 
berita unik